Books Review - Good Books change life

PlAwAnSaI

Administrator
Thinking - The Magic of Thinking Big : คิดใหญ่ ไม่คิดเล็ก

[/b]ถ้าคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้:
www.youtube.com/watch?v=VE068Y3c3OA

รักษาโรคชอบแก้ตัวของคุณ : โรคแห่งความล้มเหลว:
www.youtube.com/watch?v=qTJc-fK-dfQ

www.youtube.com/watch?v=X-NeHkKb4-4

สร้างความเชื่อมั่นในตนเองและทำลายความหวาดกลัว:
www.youtube.com/watch?v=vE9c68bFt7E

วิธีการคิดใหญ่:
www.youtube.com/watch?v=q_Xy9Dm0ptU

วิธีการคิดและฝันอย่างสร้างสรรค์:
www.youtube.com/watch?v=Zz66cONFDUM

www.youtube.com/watch?v=s1WcagbYZgo

คุณเป็นไปตามที่คิดว่าคุณเป็น:
www.youtube.com/watch?v=l0yDV5CbDJY

www.youtube.com/watch?v=a9RBRD8bER8

จัดการกับสภาพแวดล้อมคุณ : เอาชั้นหนึ่ง:
www.youtube.com/watch?v=ToxJLtaGZeg

www.youtube.com/watch?v=ERJFjDgQN1I

ทำให้ทัศนคติของคุณเป็นพวกเดียวกับคุณ:
www.youtube.com/watch?v=RT1OCov0nsc

www.youtube.com/watch?v=So3_sWsEcg0
[/list]
cool.gif
 

PlAwAnSaI

Administrator
Management - 25 Things the Leader Must Know - ผู้นำก็ต้องมีโค้ช

"ภาวะผู้นำ" เป็นสิ่งที่อยู่ในตัวเราทุกคน ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องเป็น "ผู้นำองค์กร" หรือเป็น "ผู้นำทางความคิด" เราก็สามารถมีภาวะผู้นำได้

ภาวะผู้นำ หมายถึง ทักษะอย่างหนึ่งในการขอความร่วมมือจากผู้อื่น ให้ช่วยทำบางสิ่งให้เรา คล้ายๆ กับทักษะการ "โน้มน้าวใจผู้อื่น" แต่ลึกซึ้งกว่าเยอะ

  1. ผู้นำต้องสร้างวิสัยทัศน์

    ก่อนที่เราจะขอความร่วมมือจากคนอื่น สิ่งแรกที่เราต้องมีก่อนคือ "สิ่งที่เราอยากจะทำ" หรือ "วิสัยทัศน์" นั่นเอง และสิ่งที่เราอยากจะทำก็เป็นสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่เราอยากให้คนอื่นช่วย ฉะนั้นสิ่งนั้นต้องมี "ความดึงดูดใจ" หรือ "น่าสนใจ" ในสายตาคนที่เราจะขอให้ช่วยพอสมควร

    วิสัยทัศน์ หรือสิ่งที่เราอยากทำให้สำเร็จ ต้องเกิดจาก "ความอยากทำจากใจ" ไม่ใช่ความอยากที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เพราะหากใจของผู้นำไม่มีความอยากจะทำสิ่งนั้น หรือทำแค่สักว่าทำตามหน้าที่ หรือตามนโยบาย ก็คงจะไม่สามารถส่งต่อความอยากนี้ให้กลายเป็นพลังเพียงพอที่จะให้ลูกน้องหรือคนอื่นอาสามาช่วยทำตามได้
  2. ผู้นำต้องตัดสินใจ

    ผู้นำจะต้อง "กล้าตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆ ในเวลาที่สำคัญได้" ผู้นำต้องตระหนักว่า "ทุกการตัดสินจะมาพร้อมกับความรับผิดชอบของผู้นำเสมอ"

    และที่น่าสนใจคือ ผู้นำหลายคนไม่กล้าตัดสินใจถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับคนหลายคน

    เหตุผลก็เพราะว่า ผู้นำอยากจะเลี่ยงความรับผิดชอบถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมา แต่ถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวกับตัวเองคนเดียว จะกล้าตัดสินใจขึ้นมาทันที

    ทางออกของผู้นำที่ไม่กล้าตัดสินใจคือ หาข้อดี ข้อเสียของการตัดสินใจ จำลองเหตุการณ์เพื่อการตัดสินใจ และฝึกตัดสินใจทันที
  3. ผู้นำต้องมีพลังเหลือเฟือ

    เชื่อว่า หลายๆ คนอยากทำงานกับผู้นำที่อยู่ด้วยแล้วมีไฟ เหมือนกับที่ แจ็ก เวลซ์ อดีต CEO ของ GE เคยกล่าวไว้ว่า ผู้นำต้องมี 4E
    1. Energy: พลังเหลือ
    2. Energize: เพิ่มพลังให้คนรอบข้าง
    3. Edge: ตัดสินใจเรื่องยากๆ ได้ และ
    4. Execute: ทำสิ่งที่พูดไว้จนสำเร็จ
    วิธีการเพิ่มพลังใจ คือ ทำสิ่งที่ยังค้างคาให้เสร็จสมบูรณ์ และทำสิ่งที่ทำแล้วจะเพิ่มพลังกาย เช่น ออกกำลังกายอย่างน้อยหนึ่งวันต่อสัปดาห์ ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร หรือไม่กินอาหารหลังสี่ทุ่ม ฯลฯ อีกวิธีหนึ่งคือ ผู้นำต้องคิดว่าตัวเองและคนรอบข้างล้วนเป็นตัวเอก ผู้นำบางคนคิดว่าตัวเองมีพลังล้นเหลือ จึงปล่อยพลังข่มคนอื่น ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าถูกข่ม กลายเป็นตัวเองเป็นตัวเอก คนอื่นเป็นตัวประกอบ
  4. ผู้นำต้องทำจนสำเร็จ

    เมื่อเริ่มทำงานแต่ละอย่าง งาน 10% สุดท้ายจะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของงานในภาพรวม เคยมั๊ยที่เราทำงานหนึ่งไปเรื่อยๆ เมื่องานใกล้จะเสร็จหรือถึงเดือนสุดท้ายเรามักจะเหนื่อยและคิดอยากจะทำให้เสร็จเร็วๆ จะได้สบายตัว กลายเป็นว่า งาน 10% หลังนี้จะส่งผลถึงคุณภาพให้งานอีก 90% กลายเป็นว่างานชิ้นนี้กลายเป็นงานลวกๆ ไป

    การจะทำงานให้สำเร็จ ให้ลองจินตนาการ "ให้ไกลกว่าเป้าหมาย" ไม่ใช่แค่ "ถึงเป้าหมาย" ผู้นำต้องหามาตรการป้องกันอาการแผ่วปลายไว้ด้วย

    ถ้าเราไปบอกให้ใครสักคนปิดตาแล้วให้เขาวิ่งไปให้ถึงเส้นชัยที่อยู่ถัดไปอีก 10 เมตร คนส่วนใหญ่จะวิ่งช้าลง เมื่อคิดว่าใกล้จะถึงระยะ 10 เมตร และจะหยุดนิ่งอยู่บริเวณนั้น แต่ถ้าเราเปลี่ยน ให้คนๆ นั้นปิดตาแล้ววิ่งให้ผ่านเส้นชัย 10 เมตร ไปเลย คนส่วนใหญ่จะวิ่งผ่านเส้นชัยไป

    นี่คือพลังของการจินตนาการให้ไกลว่าเป้าหมาย และมุ่งมั่นทำจนสำเร็จ
  5. ผู้นำต้องรวดเร็ว

    ถ้าผู้นำ "รวดเร็ว" องค์กรก็จะดำเนินการได้รวดเร็วด้วย ถ้าผู้นำเฉื่อย องค์กรก็จะเฉื่อยตาม

    วิธีการให้รวดเร็ว ก็คือ กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงานก่อน Dead Line เดิม เช่น งานที่ใช้เวลาทำเสร็จภายใน 1 เดือน ก็ทำให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ นอกจากผู้นำต้องมีจิตสำนึกต่อระยะเวลาในการทำงานแล้ว ต้องร้องขอให้คนรอบข้างสำนึกต่อระยะเวลาด้วย
  6. ผู้นำต้องยุติบางสิ่งได้

    CEO ของบริษัทแห่งหนึ่งต้องการวางมือจากธุรกิจที่ทำกำไรมาโดยตลอด แล้วไปสร้างธุรกิจใหม่ แทนที่เขาจะขายกิจการให้คนอื่นรับช่วงแทน เขาติดตั้งระเบิด แล้วจุดชนวนระเบิดโรงงานทิ้ง เท่านั้นยังไม่พอ เขายังถ่ายทอดสดการระเบิดครั้งนี้ไปยังสำนักงานย่อยทุกสาขาเพื่อให้พนักงานทุกคนได้ดู

    เขาทำอย่างนี้ทำไม? คำตอบคือ เขาต้องการลบล้างความรู้สึกเก่าๆ ของพนักงานออกไป ก่อนที่จะไปเริ่มธุรกิจใหม่

    ผู้นำต้องฝึกยุติบางสิ่ง เช่น ยุติการประชุมบางประชุม เลิกทำ OT เลิกนำงานกลับไปทำที่บ้าน ยุติการไปทานอาหารกับลูกค้าทุกวันพุธ เป็นต้น
  7. ผู้นำต้องเป็นผู้ฟังที่ดี

    ผู้นำที่เป็นผู้ฟังที่ดี จะสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดในชีวิตได้รวดเร็ว เนื่องจากเมื่อรับฟังคนรอบข้าง คำแนะนำเหล่านั้นจะทำให้ผู้นำกลับตัวได้เร็ว นอกจากนี้

    การฟังที่ดีจะนำไปสู่การนำเสนอ Idea ดีๆ อีกด้วย เพราะผู้นำที่ดีจะต้องไม่นั่งอยู่แต่ในห้อง Air ต้องเดินออกไปดู ไปทักทายพนักงาน รับฟัง Idea ใหม่ๆ จากพนักงาน แล้วนำมาคิดวิเคราะห์ลงมือทำ ผู้นำที่เป็นผู้ฟังที่ดีจะเพิ่มพลังใจให้พนักงานได้ เพราะถ้าใครรับฟังเรื่องของเรา เราจะรู้สึกว่าเรามีคุณค่าเพิ่มขึ้น ถึงขนาดผู้นำยังตั้งใจฟังเราพูดเลย

    แต่ก็มีผู้นำอีกประเภทที่ไม่เป็นผู้ฟังที่ดี เพียงเพราะ คิดว่าถ้าฟังคนอื่นแล้วจะทำให้ตัวเองสูญเสียอำนาจ คิดว่าไม่มีใครเก่งกว่าตัวเองเลยไม่ต้องฟังใคร และคิดว่าการฟังใครสักคนเป็นการเสียเวลา

    ผู้ฟังที่ดีไม่จำเป็นต้องรับฟังทุกเรื่องหรือทุกเวลา ควรเตรียมทางเลือก "ไม่รับฟัง" ไว้ด้วย เช่น ถ้าลูกน้องรายงานไปเรื่อยเปื่อย ผู้นำควรตำหนิให้พูดกระชับขึ้น
  8. ผู้นำต้องกล้าพูดต่อหน้าคน

    ผู้นำต้องพูดต่อหน้าคนบ่อยๆ อย่าคิดว่า พูดบ่อยแล้วลูกน้องคงจะเข้าใจ อย่างนี้ไม่ใช่ ผู้นำส่วนหนึ่งไม่กล้าพูดต่อหน้าลูกน้องจำนวนมาก วิธีแก้ไขคือ กำหนดต้นแบบว่าเราอยากพูดเหมือนใคร ไม่ต้องเลียนแบบเป๊ะ แค่พอเห็นภาพ รวบรวมประเด็นที่จะพูด ฝึกพูดหน้ากระจกหรือถ่าย Video เอาไว้ ถามคนฟังด้วยว่ามีจุดไหนต้องปรับปรุงบ้าง และต้องสนุกกับเรื่องที่ตัวเองจะพูด
  9. ผู้นำต้องโน้มน้าวใจเก่ง

    ผู้นำที่มีเสน่ห์ใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้ เช่น มหาตมะ คานธี ผู้นำควรฝึกโน้มน้าวใจไปเรื่อยๆ จนเกิดความเคยชิน ก่อนจะโน้มน้าวใจใคร อย่าพูดห้วนๆ แต่จงเล่าความคิดโดยละเอียด หรือบอกข้อดีของการทำสิ่งนั้นให้คนที่เราจะโน้มน้าวฟัง เช่น Project นี้จะช่วยให้คุณมีพัฒนาการใหม่ๆ อย่างแน่นอน หรือ คุณไปทานอาหารกลางวันที่ร้าน...กันไหม ร้านนี้ทำ Menu จากปลาที่ตกได้ในวันนั้นเลย น่าสนใจมั้ย?
  10. ผู้นำต้องไม่หนี

    เรื่องนี้วัดขนาดของหัวใจผู้นำ ว่า มีความใจสู้มากแค่ไหน ผู้นำต้องไม่หนีจาก "ความกลัว" ที่เกิดขึ้นภายในใจ อย่าลังเล และอย่าคิดไปเอง ตัวอย่างเช่น เราขี้เกียจไปคุยกับลูกน้องเรื่องนั้นชะมัด ถ้าเราพูดไปแล้วเขาอาจจะตอบโต้ หรือบ่นเราอีกเป็นได้ เสียงแบบนี้จะดังอยู่ในหัวผู้นำตลอด ในกรณีนี้ผู้นำควรแก้ปัญหาด้วยคำว่า "จงออกไปเจอคนที่ไม่อยากเจอที่สุด ในเวลาที่ไม่พร้อมที่สุด"
  11. ผู้นำต้องมองตัวเองอย่างเป็นกลาง

    ผู้นำที่ประสบความสำเร็จที่สุด ต้องมีความรู้สึกเชิงบวกและมองตัวเองอย่างเป็นกลาง
  12. ผู้นำต้องรักษาสัญญา
  13. ผู้นำต้องจุดประกายภาวะผู้นำในตัวลูกน้อง
  14. ผู้นำต้องมองทุกคนในองค์กรเป็นผู้นำ
  15. ผู้นำต้องสร้างผู้นำ
  16. ผู้นำต้องควบคุมความกดดันในองค์กร
  17. ผู้นำต้องมองโลกในแง่ดี
  18. ผู้นำต้องไม่ทะนงตน
  19. ผู้นำต้องตั้งคำถามตัวเองอย่างสร้างสรรค์
  20. ผู้นำต้องยอมรับความหลากหลาย
  21. ผู้นำต้องเรียนรู้ภาวะผู้นำ
  22. ผู้นำต้องควบคุมความเครียด
  23. ผู้นำต้องเลือกการตอบสนองด้วยตัวเอง
  24. ผู้นำต้องตัดทางหนี
  25. ผู้นำต้องสร้างความมุ่งมั่นด้วยตัวเอง
Cr: Aj.Man
cool.gif
 

PlAwAnSaI

Administrator
Thinking - คิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น

รู้จัก [กลไก] ของสังคม:

  • กลไกของสังคมคือ ???:
    "เมื่อเราใช้ชีวิตอยู่ในสังคม บ่อยครั้งทั้งความคิด การกระทำ การตัดสินใจต่างๆ ของเราไม่ได้เกิดจากตัวเราเอง แต่เกิดจากสังคมที่สร้าง [รูปแบบ] การคิดให้เรา เกิดเป็นกลไกในชีวิตไปแบบอัตโนมัติ"
  • กฏการทำงาน:
    [ค่าตอบแทน] = [ปริมาณ] x [คุณภาพ]
    กลไกของสังคมมักจะให้ความสำคัญกับการทำงาน โดยเน้นที่ [ค่าตอบแทน] เป็นหลัก
  • เราจึงให้ความสำคัญกับ:
    [ผลตอบแทน] มากกว่า [ทำสิ่งที่ชอบ]
  • "เมื่อเรารู้เท่าทันกลไกทางสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่แบ่งแยกระหว่าง คน [มี] อิสรภาพ และ คน [ไร้] อิสรภาพ"
  • คน [มี] อิสรภาพ:
    • เจ้าของร้านอาหารหรือร้านค้าที่เป็นที่นิยม
    • นักเขียน จิตรกร ศิลปิน ที่ได้ส่วนแบ่งตามยอดขาย
    • คนที่ถือสิทธิบัตรต่างๆ
    • คนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่าย
    • นักกีฬา
    • คนได้รับเงินปันผลจากหุ้น พันธบัตร หรือเงินฝาก
  • คน [ไร้] อิสรภาพ:
    • พนักงานบริษัท / ข้าราชการ
    • ประธานและกรรมการของบริษัทขนาดใหญ่
    • เจ้าของธุรกิจส่วนตัว / ผู้บริหารธุรกิจ กลางและย่อม
    • ผู้ประกอบวิชาชีพ (แพทย์, ทนายความ, นักบัญชี)
    • คนตกงาน
  • Tip: สำหรับ [พนักงานบริษัท] ที่อยากเป็น [เศรษฐี]:
    "พยายาม [ล่น] ระยะเวลาทำงานที่เป็นพนักงานให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้และคิดว่า การทำงานเปรียบเสมือนไปโรงเรียน เพื่อเรียนรู้ [ทักษะ] ต่างๆ เพราะถ้าไม่คิดแบบนี้ ก็มีโอกาสที่จะถูกค่านิยมในบริษัทล้างสมอง"
  • เครื่องมือใช้ชีวิตของคนมี [อิสรภาพ]:
    • สร้างระบบที่ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข
    • ขายลิขสิทธิ์จากผลงานของตัวเอง
    • ขายลิขสิทธิ์ / ทำสัญญาโฆษณาขายสินค้า
    • กระจายสินค้าให้ถึงผู้ที่ต้องการ (ธุรกิจเครือข่าย)
    • เงินปันผล / ดอกเบี้ย / ค่าเช่า
  • "การจะเป็น [เศรษฐี] ที่มีความสุข จำเป็นต้องใช้ [เวลา] พิจารณาตัวเอง เพื่อกล้าเผชิญหน้ากับตัวเอง และ [เปลี่ยน] วิถีชีวิตไปในแบบที่ต้องการ"
[รู้จัก] ตัวเองและทำสิ่งที่ตัวเอง [ชอบ]:

  • "เคล็ดลับในการเป็นเศรษฐีที่มีความสุข คือ การทำงานที่ตัวเอง [ชอบ]"
    "คนหนุ่มสาวส่วนใหญ่ มีชีวิตที่สับสนวุ่นวาย เพราะพยายามจะเป็นใครสักคน ทั้งๆ ที่ยัง [ไม่รู้จัก] ตัวเองดีเลยด้วยซ้ำ"
  • การ [หา] สิ่งที่ตัวเองชอบ
    [นึกถึง] สิ่งที่ตัวเองชอบทำ สมัยเด็กมาสัก 5 อย่าง
    [เลือก] สิ่งที่ตอนนี้ยังชอบอยู่ มาสัก 3 อย่าง
    [ทำ] สิ่งที่ตัวเองชอบทีละน้อย เป็นประจำทุกวัน
  • [ความถนัด] และ [ความชอบ] เหมือนกัน ?
    [ความถนัด]:
    • ตื่นเต้นเวลาทำงานนั้น
    • Adrenaline พลุ่งพล่านทำให้เข้าใจว่า ทำสิ่งที่ชอบ
    • แรงจูงใจ คือ ต้องการเป็นคนใหญ่คนโต / มีชีวิตน่าตื่นเต้นเร้าใจ ที่ทำให้คนอิจฉา
    [ความชอบ]:
    • เรียบง่าย เบาสบาย
    • ทำแล้วสนุกจนลืมเวลา
    • ทำแม้ไม่ได้เงิน / ไม่ได้รับคำชื่นชมจากคนรอบข้าง
  • "[สิ่งที่ดีที่สุด] ที่คนเราสามารถอุทิศให้กับโลกได้ คือ การรู้ว่าตัวเราเกิดมา [เพื่ออะไร] แล้ว [ทุ่มเท] ให้กับสิ่งนั้น"
  • คุณกำลัง [ทำ] อะไรอยู่ ?:
    • [ทำ] สิ่งที่ชอบ + ได้เงิน [มาก] = ยอดเยี่ยม
    • ทำสิ่งที่ชอบ + เงิน [น้อย] = มีความสุขพอควร เพราะยังได้ทำสิ่งที่ชอบอยู่
    • [ไม่ได้ทำ] สิ่งที่ชอบ + ได้เงินมาก = มีเงินแต่เครียด ต้องใช้เงินระบายความเครียด
    • ไม่ได้ทำสิ่งที่ชอบ + เงินน้อย = เลวร้ายสุดๆ
  • "มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพฤติกรรมทำอะไรตาม [ความเคยชิน] ลองได้ทำเรื่องที่ [ไม่ชอบ] จนกลายเป็นความเคยชินแล้วละก็ ทีนี้ก็จะเริ่ม [กลัว] การเปลี่ยนแปลง"
  • ข้ออ้าง ? ออกตามหางานที่ [ชอบ]
    "หลายคน เมื่อเจออุปสรรคในการทำงาน หรือเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ไม่เป็นไปตามหวัง ก็มักจะเลิกล้มและอ้างว่า นั่น [ไม่] ใช่งานที่ฉันชอบ ต้องออกไปตามหางานใหม่ไปเรื่อยๆ"

    ที่จริงแล้ว งานที่เราชอบ บางทีมันต้องมีช่วงเวลาที่เจออุปสรรคทำให้ความสุขในการทำงานมันลดลง แต่ถ้าเราชอบ มันก็จะทำให้เราสามารถอดทนทำต่อไปได้จนสำเร็จ

    เหมือนเราอาจรักใครสักคนมาก แต่ก็ไม่แปลกที่จะไม่ชอบนิสัยหรือพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างของเขา กุญแจสำคัญจึงอยู่ที่ว่าเธอสามารถ [รัก] โดยยอมรับส่วนที่ไม่ชอบนั้นได้ด้วยหรือเปล่า
  • "วิธีที่ดีที่สุด ที่จะทำให้เราค้นพบสิ่งที่ [ชอบ] คือ ไม่ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ [จงรัก] ในสิ่งนั้น"
  • "เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่า ต้องเจองานที่ใช่ก่อน ถึงจะเกิดความรักในสิ่งที่ทำและมีความสุขได้ แต่ตรงกันข้ามเลย คนที่ [กล้า] เผชิญหน้ากับตัวเอง และ [สู้] ไม่ถอยต่างหาก ที่จะพบสิ่งที่ [ตัวเองชอบ] อย่างแท้จริง"

    ถ้าเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบแล้ว ทำแล้วก็ต้องทุ่มเทอย่างแท้จริง หลายคนที่ออกเดินทางค้นหาสิ่งที่ชอบ ไม่เข้าใจว่าถ้าเอาแต่หนีจากสภาพที่เป็นอยู่ โอกาสที่กำลังมาหาจะหายวับไป
Cr: iYom
cool.gif
 

PlAwAnSaI

Administrator
Thinking - How to Win Friends and Influence People - วิธีชนะมิตรและจูงใจคน

  1. ทางลัดไปสู่ความเด่น:
    www.youtube.com/watch?v=2rTESZ3n3zA
  2. ถ้าท่านต้องการจะเอาน้ำผึ้ง, ก็อย่าเตะรังผึ้ง:
    www.youtube.com/watch?v=OOMADTfIblM
  3. เคล็ดลับยิ่งใหญ่ในการติดต่อกับผู้อื่น:
    www.youtube.com/watch?v=o6GmdVf7bkY
  4. ผู้ที่ทำได้เช่นนี้โลกทั้งโลกจะอยู่ข้างเขา:
    www.youtube.com/watch?v=kEvIbNz3X9E
  5. จงปฏิบัติตามนี้แล้วจะมีผู้ต้อนรับทุกหนทุกแห่ง:
    www.youtube.com/watch?v=qaiDajycZ_k
  6. วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้ผู้อื่นติดเนื้อต้องใจเมื่อแรกพบ:
    www.youtube.com/watch?v=4URlPswZHXw
  7. ถ้าท่านไม่ทำตามนี้, ท่านจะบ่ายหน้าไปพบความยุ่งยาก:
    www.youtube.com/watch?v=HSCQHjwnTR0
  8. หนทางง่ายๆ ที่จะเป็นนักสนทนาที่ดี:
    www.youtube.com/watch?v=5okI_nPEk7Q
  9. วิธีทำให้ผู้อื่นสนใจ:
    www.youtube.com/watch?v=eGQ6mjAGYy0
cool.gif
 

PlAwAnSaI

Administrator
Thinking - Eat That Frog - กินกบตัวนั้นซะ

  1. แนะนำหนังสือ-สารบัญ-คำนำ:
    www.youtube.com/watch?v=RgkAJDtbsSY
  2. บทนำ: กินกบตัวนั้นซะ:
    www.youtube.com/watch?v=kuiWgmNZzTQ
  3. บทที่ 1: จัดโต๊ะ:
    Before you begin scrambling up the ladder of success, make sure that it is leaning against the right building - Stephen Covey
    ก่อนที่จะไต่บันได แห่งความสำเร็จขึ้นไป จงแน่ใจเสียก่อนว่า บันไดนั้นพาดไปยังอาคารที่ถูกต้อง
    www.youtube.com/watch?v=DEdXDewGl-Q
  4. บทที่ 2: วางแผนแต่ละวันเอาไว้ล่วงหน้า:
    www.youtube.com/watch?v=LjW1aBb-Lo4
  5. บทที่ 3 : ใช้กฎ 80/20 กับทุกเรื่อง:
    www.youtube.com/watch?v=fhwsBbkFXcw
  6. บทที่ 4 : คำนึงถึงผลลัพธ์:
    www.youtube.com/watch?v=ql9cMfdvSDA
  7. บทที่ 5 : ฝึกผัดวันประกันพรุ่งอย่างสร้างสรรค์:
    www.youtube.com/watch?v=VIZCmEyi-Js
  8. บทที่ 6 : หมั่นใช้ Technique ABCDE อยู่เสมอ:
    www.youtube.com/watch?v=DpRVuLgMusY
  9. บทที่ 7 : ให้ความสำคัญกับหน้าที่หลัก:
    www.youtube.com/watch?v=L6Y6Hkfvbs8
cool.gif
 

PlAwAnSaI

Administrator
Thinking - Principles
  • สัมภาษณ์ผู้แปลหนังสือ คุณจอมทรัพย์ สิทธิพิทยา:
    www.investing.in.th/content/17870
  • The happiest people discover their own nature and match their life to it.:
    www.facebook.com/investing.in.th/photos/a.290118547681359/2723402521019604
cool.gif
 

PlAwAnSaI

Administrator

Thinking - Digital Network Advantage (DNA)
  1. ไม่จำเป็นต้องไล่ตาม เพียงแค่สร้างสวนดอกไม้:

    dna4journal-0004_orig.jpg

    ผู้มีปัญญากล่าวไว้ว่า วันที่สำคัญและมีความหมายของชีวิตมีอยู่สองวัน วันแรกคือวันที่เราเกิดมาในโลกใบนี้ ส่วนวันที่สองคือวันที่เรารู้ว่าเราเกิดมาเพื่อทำอะไรให้กับโลกใบนี้?

    วันสำคัญวันแรกคงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสืบค้น ส่วนวันสำคัญวันที่สองไม่มีใครล่วงรู้ได้เลยว่าจะมาถึงเมื่อใด? เราจึงควรสงวนพลังงานและทรัพยากรส่วนหนึ่งไว้เพื่อรอแสงสว่างดังกล่าวมาตกกระทบตัวเรา และออกเดินทางในฐานะคนล่าฝัน

    แต่ถ้าการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะขับเคลื่อนพลังในกายให้ออกเดินทาง กลายเป็นการตัดสินใจที่สร้างความเป็นห่วงให้คนรอบกาย จะมีความกล้าหาญเพียงพอที่จะยืนระยะนั้นได้หรือไม่?

    คนรอบตัวฉายภาพให้เห็นกำแพงอุปสรรคที่ขวางอยู่ตรงหน้า นักวิเคราะห์พร่ำบอกว่าถ้าจะเดินไปในเส้นทางนี้จะต้องเจอกับอะไร? นัก Technique ชี้ชัดว่าโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว และไม่สามารถหาเหตุผลมาหักล้างบทวิเคราะห์บทนั้นได้เลย ด้านหนึ่งหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค แต่อีกด้านก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวว่าจะต้องตกหลุมพรางอย่างที่ทุกคนคาด

    หลักการตลาดในบทแรกๆ สอนเราว่าเป้าหมายทางการตลาดคือมนุษย์ทุกคนไม่ใช่ลูกค้า เราไม่สามารถขายสินค้าให้ทุกคน แต่ควรขายให้คนที่แบ่งปันคุณค่าและมุมมองเหมือนเรา คำสอนนี้เฉียบคมและมีคุณค่า แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือเราจะหาคนกลุ่มนั้นเจอได้อย่างไร?

    เราใช้เวลาและทรัพยากรที่เรามีแปรเปลี่ยนไปเป็นสวิงเพื่อไล่จับผีเสื้อ เมื่อเราจับได้แล้วพอเวลาผ่านไปผีเสื้อตัวนั้นก็บินหนีไปตามธรรมชาติ ซึ่งมันก็เป็นวิธีหนึ่งแต่ไม่ได้ตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน

    แต่ถ้าเราเปลี่ยนมุมมอง ปรับวิธีคิดว่าแทนที่จะ “ไล่จับ” ผีเสื้อเราจะเปลี่ยนมา “ดึงดูด” ผีเสื้อแทนได้ไหม?

    พวกเราทุกคนทำได้ง่ายๆ โดยการปรับวิธีคิดให้เหมือนกับ “การสร้างสวนดอกไม้” ค่อยๆ ปลูกอย่างตั้งใจ รดน้ำด้วยความใส่ใจและสรรหาดอกไม้ที่สวยงามมาปลูกเพิ่ม

    วิธีการนี้อาจขาดซึ่งประสิทธิภาพในการทำยอดในช่วงเวลาสั้นๆ แต่วิธีนี้คือคำตอบของคำถามเรื่องความยั่งยืน เพราะผีเสื้อจะโบยบินมาเยือนที่สวนดอกไม้ของเราเอง และมีน้ำใจพอที่จะชวนเพื่อนของผีเสื้อมาด้วย เพราะคนที่มีคุณลักษณะเหมือนกัน รสนิยมแบบเดียวกัน มักจะทนแรงดึงดูดของสิ่งที่เหมือนกันไม่ได้

    เราไม่มีทางล่วงรู้ว่าผีเสื้อตัวแรกจะโบยบินมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าเขามาเยือนแล้วจงต้อนรับเขาอย่างเป็นมิตร ทำให้ช่วงเวลานั้นมีความหมายสำหรับเขา ให้เขาจดจำ ถ้ามีโอกาสจงให้เกียรติเขาเสมือนเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ให้โอกาสเขาริเริ่มอะไรบางอย่าง และเมื่อเราให้ใจไปเขาก็คงไม่โหดร้ายที่จะไม่ให้ใจกลับมา

    และเมื่อได้ใจมาแล้วโปรดเก็บรักษาไว้อย่างดีที่สุด เพราะดวงใจเปรียบได้เหมือน “แก้ว” ถ้าเผลอทำหล่นแตกไป ถึงพยายามจะซ่อมแซมอย่างปราณีตอย่างไรก็ไม่มีวันหวนคืน

    www.dnabyspu.com/dna-journal/dnajournal4-ep1
  2. อนาคตศาสตร์:

    dna4journal-0005_orig.jpg

    ตอนนี้พวกเรายืนอยู่ในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้ง คือช่วงเวลาที่ยากที่สุดและง่ายที่สุดในการทำธุรกิจ

    ที่บอกว่าง่ายที่สุดคือ สมัยก่อนกว่าจะผลิตสินค้าออกมาแต่ละชิ้นเพื่อจัดจำหน่าย ต้องมีกระบวนการที่ยุ่งยาก การประสานงานแต่ละขั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อน ต้องใช้เอกสารมากมายในการดำเนินการ ซึ่งส่งผลไปถึงค่าใช้จ่ายมหาศาล แต่สมัยนี้การหาสินค้ามาขายนั้นก็ไม่ได้ยากไปกว่าการซื้อสินค้ามาใช้เลย

    รวมไปถึงการผลิตชิ้นงานสื่อเพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ สมัยก่อนอุปกรณ์ผลิตสื่อมีราคาแพงและถูกใช้โดยคนบางกลุ่มเท่านั้น ทำให้พวกเขาสามารถเรียกค่าส่วนต่างที่มีราคาแพงในการผลิต แต่ตอนนี้อุปกรณ์ผลิตสื่อได้ถูกสรุปรวมมาอยู่ใน Smart Phone หมดแล้ว เคล็ดวิชาของคน Production เช่น มุมกล้อง การถ่ายทำจนถึงการตัดต่อ ไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เพราะแทบจะทั้งหมดมีสอนอยู่ใน YouTube

    การสื่อสารผ่านทาง Mass Media ถ้าเมื่อก่อนต้องกำเงินเดินไปที่สื่อหลักๆ วางเงินจองและรอให้ถึง Queue ที่จะได้ออกอากาศ และแน่นอนพื้นที่สื่อไม่ใช่พื้นที่ราคาถูก เวลาแค่ 15 วินาทีกลับมีราคาค่างวดที่แพงกว่ารถมอเตอร์ไซค์ระดับกลางๆ 1 คัน แต่ตอนนี้โลกเรามีสิ่งที่เรียกว่า Social Media ที่จะทำให้การสื่อสารมีต้นทุนถูกได้อย่างไม่น่าเชื่อ และถ้าฝีมือเจ๋งจริง ทำ Content ที่โดนจริงๆ คนทั่วประเทศจะรู้ถึงการดำรงอยู่โดยไม่ต้องอาศัยต้นทุนแม้แต่บาทเดียว

    สิ่งต่างๆ ข้างต้นคือข่าวดี เพราะ Internet เปิดกว้างให้ทุกคนสามารถอยู่ในวงการธุรกิจได้ ไม่ปิดกั้นเหมือนสมัยก่อนที่คนทำธุรกิจมีแต่กลุ่มนายทุนรายใหญ่ที่ร่ำรวยอยู่แล้ว

    แต่ข่าวดีก็ต้องมาคู่กับข่าวร้าย ยุคนี้เป็นยุคที่มีความยากที่สุดในการทำธุรกิจ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าผู้ประกอบการรายใหม่จะเกิดขึ้นมาและ Disrupt เราเมื่อไหร่? ดังที่นักการทหารชื่อดังกล่าวในยุคสงครามโลกครั้งที่สองไว้ว่า “ผู้ก่อการร้ายที่น่ากลัวที่สุดคือผู้ก่อการร้ายที่เรามองไม่เห็น เพราะเมื่อเรามองไม่เห็นเราจะออกแบบมาตรการรับมือได้อย่างไร?”

    เรื่องเหล่านี้อยู่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด ลองสังเกตได้จากการ Update แต่ละครั้งของ Algorithm ใน Social Media อย่าง Facebook ที่ใน 2-3 ปีที่ผ่านมานี้มีการ Update ทั้งแบบใหญ่และแบบย่อยมาแล้วไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง ในเวลา 2-3 ปี มนุษย์อาจไม่มีความเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่กับ Technology ที่ห่างกัน 2-3 ปีไม่สามารถนำมาเทียบกันได้เลย

    และเชื่อแน่ว่าในการ Update แต่ละครั้ง จะมีกลุ่มคนที่สามารถเรียนรู้และประยุกต์ใช้สิ่งเหล่านั้นมาเป็นแต้มต่อทางธุรกิจได้ แต่เรามีความเข้าใจ Technology ในระดับ “ผู้ใช้งาน” ไม่ได้ดำดิ่งลงลึกเหมือน “ผู้เชี่ยวชาญ” ถ้าเช่นนั้นเราจะต้องปฎิบัติตัวอย่างไรในยุคสมัยที่รักษาธุรกิจไว้ยากที่สุด?

    ขออนุญาตมอบคาถาคุ้มกันในยุคสมัยใหม่ให้คือ “คิดใหม่ และ ทำใหม่”

    “คิดใหม่” ในที่นี้หมายถึงการขยายกรอบความคิดและมองไปที่นอกกรอบความสนใจของตัวเองบ้าง เพราะถ้าเรามัวแต่จ้องมองอยู่กับสิ่งที่เราสนใจ จะทำให้เรามีมุมมองแคบ ไม่รู้ว่าโลกไปถึงไหนและไม่รู้เลยว่าจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างไร

    “ทำใหม่” ไม่ได้หมายถึงการคิดผลิตสินค้าหรือบริการใหม่ เพราะมันต้องอาศัยต้นทุนมหาศาล แต่หมายความถึงการทดลองกระบวนการใหม่ๆ วิธีคิดใหม่ๆ หรือหารูปแบบรายได้ใหม่ๆ ในสินค้าเดิม

    คิดใหม่เช่น “ธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสาร” ที่มีราคาค่าเครื่องที่แสนแพงแต่ผลิตสินค้าที่ราคาถูกแสนถูก วงจรทั้งหมดไม่ได้เป็นไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งอย่าว่าแต่จะสร้างผลกำไรเลย แค่จะขายให้ได้สักเครื่องก็เป็นไปได้ยากแล้ว

    ผู้บริหารตระหนักถึงจุดอ่อนข้อนี้ดี จะให้ผลิตเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นใหม่ที่ราคาถูกลงก็คงไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เขาจึงตัดสินใจหันหัวเรือจากธุรกิจ “ขายขาด” มาเป็น “การเช่าซื้อ” โดยการออกระบบเช่าให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถนำเครื่องถ่ายเอกสารไปตั้งที่แหล่งชุมชนได้ แล้วก็แบ่งผลกำไรกัน ซึ่งวิธีการนี้มีข้อดีอยู่ 2 ข้อ นอกจากบริษัทสามารถปล่อยสินค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายทางการตลาดแล้ว บริษัทยังสามารถสร้างผลกำไรได้จากการขายอะไหล่และบริการตรวจ Check ดูแลรักษาด้วย

    “คิดใหม่ ทำใหม่” แน่นอนว่าคาถานี้ไม่ใช่คาถาที่มาจากผู้มีพลังวิเศษเหนือมนุษย์ ที่จะทำให้ธุรกิจปลอดภัยโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่สามารถทำให้ฉุกคิดอะไรได้ในแง่มุมว่า "เมื่อเราหยุดวิ่งเมื่อใด รู้ตัวอีกทีเราก็อาจโดนเเซงหน้าเสียเเล้ว"

    www.dnabyspu.com/dna-journal/dnajournal4-ep2
  3. Future is Now?:
    อุปสรรคที่สกัดกั้นไม่ให้สังคมโลกก้าวไปสู่ความเท่าเทียม: ฎหมาย, แข่งขัน, และ นเป็นผู้กำหนดอนาคต
    www.dnabyspu.com/dna-journal/february-11th-2019
  4. ดำดิ่งไปในจุดอ่อน จนกว่าจะพบจุดแข็ง:
    พัฒนาจุดอ่อนให้เป็นจุดแข็ง อย่าง Alpha go ของ Google ก็ทำให้จีนเกิดแผนแม่บท 'AI 2030' กันเลย
    www.dnabyspu.com/dna-journal/dnajournal4-ep4
  5. บริหาร Brand เฉกเช่นบริหารความสัมพันธ์มนุษย์:
    ยุคนี้ Brand เสมือนมนุษย์คนหนึ่ง ต้องรู้จักเห็นอกเห็นใจลูกค้า แข่งกันที่ความเร็ว สนุก สร้างสรรค์กว่าจะชนะ
    www.dnabyspu.com/dna-journal/dnajournal4-ep5
  6. รู้อะไรไม่สู้...รู้จักตนเอง:
    เป็นนักทำหรือวางแผน? เป็นผู้ที่เรียนรู้ด้วยการอ่านหรือการฟัง? สร้างผลงานได้ดีเมื่อทำงานเดี่ยวหรือ Team?
    www.dnabyspu.com/dna-journal/dnajournal4-ep6
  7. หวงคือไล่...ให้คือมี:
    การช่วยเหลือผู้อื่น ประโยชน์สูงสุดล้วนกลับคืนมาสู่ผู้ให้ คนยุคนี้อยากช่วย Share ข้อมูลโฆษณาที่มีประโยชน์
    www.dnabyspu.com/dna-journal/dnajournal4-ep7
  8. 'MARTECH' Technology การตลาด ใช้ให้เป็น เห็นกำไร:
    ต้องเลือกเครื่องมือที่เหมาะกับพันธกิจขององค์กร และอย่าลืมลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ควบคู่ไปด้วย
    www.dnabyspu.com/dna-journal/dnajournal4-ep8-martech
cool.gif
 
Top