สอบไปเมื่อวันที่ 8 ที่ผ่านมานะ เลยเอามาเล่าให้ฟังกันหน่อย แต่คงจะไม่เน้นเรื่องของการสมัครสอบมากนักนะ แต่จะเน้นในเรื่องของการสอบมากกว่า ลองอ่านดูนะ
สำนักงาน กพ. เขาจะเปิดรับสมัครสอบทุน กพ. เรียนต่อต่างประเทศ บางทุนอาจจะเป็นเรียนต่อโท ต่อเอก หรือไม่ก็ต่อโทควบเอกเลย แล้วแต่หน่วยงานราชการที่เขาประกาศไว้อ่านะ เมื่อเรียนจบกลับมาก็จะต้องกลับมาทำงานตามหน่วยงานที่เราขอทุนไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเ็ป็นอาจารย์เสมอไปนะ ต้องแล้วแต่หน่วยงานที่เราขอทุนด้วย เช่น สำนักงาน NECTEC หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือมหาวิทยาลัยของรัฐบาล โดยจะมีหลายทุนที่เราสามารถขอได้ แต่ถ้าเอาเฉพาะสายเราเลยนะ ก็จะเป็นทุนของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งก็จะมีหลายสาขาวิชาที่เราเลือกสมัครได้ เช่น ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า,อิเล็กทรอนิกส์,คอมพิวเตอร์ ด้านวิศวกรรมเครื่องกล (อันนี้ถึงเวลาสมัครก็ต้องไปดูรายละเอียดก่อนนะ เพราะแต่ละปีจะมีจำนวนหน่วยงานที่รับสมัครต่างกัน) การรับสมัครโดยทั่วไป ถ้ามาจากสายทางด้านวิทยาศาสตร์ จะต้องการเกรดเฉลี่ย 2.75 ขึ้นไป แต่ถ้ามาจากสายสังคมศาสตร์ก็จะต้องการเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป และถ้าจำไม่ผิดก็จะมีทุนอีกทุนหนึ่ง ที่เป็นโครงการร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและ Imperial's college ของประเทศอังกฤษ ถ้าจำไม่ผิดอันนี้ต้องใช้เกรดเฉลี่ย 3.50 ขึ้นไปนะ ใครเกรดถึงก็น่าลองสมัครดูนะ
มาพูดเรื่องการสอบมั่ง
ข้อสอบจะแบ่งเป็น 2 วิชา คือ
1. ภาษาอังกฤษ (Vocabulary, Error detection, Cloze test, Reading) (อันนี้สอบเช้า)
2. ความสามารถเชิงวิชาการ (อันนี้แน่นอน สอบบ่าย เหอๆๆๆๆ)
พูดถึงวิชาแรกก่อนนะ
ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษนี่ แทบจะบอกว่า เอาแนว TOEFL ในส่วนของ Grammar มาออกเลยได้มั้ง (ตามความรู้สึกผมนะ) เพราะลักษณะข้อสอบที่ออกมานี่ แทบจะเหมือนกันเลย (เทียบจาก TOEFL PBT นะครับ ไม่ใช่ TOEFL IBT) ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ ใช้เวลาสอบ 2 ชั่วโมง ข้อแนะนำที่พอจะบอกได้ก็คือ ทุกข้อที่ทำควรใช้เวลาไม่เกินข้อละ 1 นาที ไม่งั้นจะเสียเวลาข้ออื่นไปมาก เพราะเวลาสอบมีน้อยมากๆ (น้อยเวอร์เลยล่ะ) และโดยเฉพาะในส่วนของ Reading ที่บางบทความยาวประมาณ 2 หน้า (พิมพ์ไม่ผิดครับ 2 หน้าเป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกิน) ยิ่งต้องอ่านจับใจความให้เร็วที่สุด
มาว่ากันเรื่องของอีกวิชานึงมั่ง
วิชาความสามารถเชิงวิชาการ ก็คือข้อสอบ SAT ดีๆ นี่เอง ถ้าไม่รู้จัก มันก็คือข้อสอบเชาว์เนี่ยแหละ (นึกถึงข้อสอบ GRE ที่เป็นภาษาไทยดู นั่นแหละ ประมาณนั้นเลย) เนื้อหาถ้าจำไม่ผิดก็จะมี คณิตศาสตร์, การวิเคราะห์เชิงเหตุผล, การสรุปเนื้อหาจากบทความที่กำหนดให้, การอภิปรายและวิจารย์บทความ, การเลือกจับคู่คำศัพท์ เป็นต้น (เยอะดีมั้ย?) ข้อสอบส่วนนี้ จะยากในเรื่องของการวิเคราะห์เหตุผลจากบทความ เพราะบางครั้ง เราวิเคราะห์บทความได้เหตุผลออกมาแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว เขาเฉลยว่ายังไง อ้อ แล้วก็แน่นอนว่า ข้อสอบมี 100 ข้อ เวลาสอบก็ 2 ชั่วโมงเหมือนกับวิชาแรกเลย
ในการสอบทุน กพ. นี้ สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงอย่างหนึ่ง คือ คู่แข่งที่เลือกในแต่ละหน่วยงานจะมีจำนวนเยอะมาก บางหน่วยงานอาจจะมีผู้สมัครถึง 60 คนได้ (ปีนี้รู้สึกว่าสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศจะเยอะสุดนะ ในกลุ่มที่ผมเลือกสมัคร ก็มีประมาณ 59 คนได้) และสิ่งสำคัญที่สุดในการสอบเลยก็คือ ห้ามมีการทุจริตระหว่างสอบเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้ว นอกจากจะโดนยุติการสอบแล้ว ยังจะโดนประเมินไม่ผ่านในการเข้ารับราชการด้วย (ไม่คุ้มเลยเนอะ ว่ามั้ย?) ก็เลยอยากจะฝากกฎเหล็ก 3 ข้อของการสอบทุน กพ. คือ
1. อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการในการสอบเท่านั้น
2. อนุญาตให้นำอุปกรณ์เข้าได้เฉพาะดินสอที่มีความดำตั้งแต่ 2B ขึ้นไป (เพราะเป็นข้อสอบที่ต้องฝนดินสอ เหมือนกับสอบเอ็นทรานซ์), ปากกา, ยางลบ ไม่อนุญาตให้นำเครื่องคิดเลขหรือโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบเด็ดขาด ไม่งั้นเขาจะถือว่าจงใจทุจริตการสอบ
3. ผู้ที่ไม่เกี่ยวกับการสอบ ห้ามเข้าห้องสอบ หรืออยู่บริเวณหน้าห้องสอบโดยเด็ดขาด
ก็หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะเตรียมสอบไม่น้อยนะครับ
ปล. 1. ใครไม่รู้จักข้อสอบ SAT เชิญเข้าไปดูได้ที่ http://www.vcharkarn.com/varticle/62 เลยครับ
2. เด็กจุฬาฯ เดินกันทั่วเลยครับตอนไปสอบ ถ้าเป็นกลุ่มนักศึกษานะ แต่จากมหาวิทยาลัยอื่นก็มีนะครับ
3. ที่น่ากลัวจริงๆ ก็คือ พวกที่ใส่ชุดธรรมดาเนี่ยแหละครับ แต่ละคนนี่ประสบการณ์แน่นปึ้ก
4. มีข้อสอบอยู่ข้อนึง เอาเนื้อเพลงดาวมหาลัยของสาวมาด เม็กกะแดนซ์มาออก เห็นแล้วแทบจะปล่อยก๊ากคาห้องสอบครับ
สำนักงาน กพ. เขาจะเปิดรับสมัครสอบทุน กพ. เรียนต่อต่างประเทศ บางทุนอาจจะเป็นเรียนต่อโท ต่อเอก หรือไม่ก็ต่อโทควบเอกเลย แล้วแต่หน่วยงานราชการที่เขาประกาศไว้อ่านะ เมื่อเรียนจบกลับมาก็จะต้องกลับมาทำงานตามหน่วยงานที่เราขอทุนไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องเ็ป็นอาจารย์เสมอไปนะ ต้องแล้วแต่หน่วยงานที่เราขอทุนด้วย เช่น สำนักงาน NECTEC หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือมหาวิทยาลัยของรัฐบาล โดยจะมีหลายทุนที่เราสามารถขอได้ แต่ถ้าเอาเฉพาะสายเราเลยนะ ก็จะเป็นทุนของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งก็จะมีหลายสาขาวิชาที่เราเลือกสมัครได้ เช่น ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า,อิเล็กทรอนิกส์,คอมพิวเตอร์ ด้านวิศวกรรมเครื่องกล (อันนี้ถึงเวลาสมัครก็ต้องไปดูรายละเอียดก่อนนะ เพราะแต่ละปีจะมีจำนวนหน่วยงานที่รับสมัครต่างกัน) การรับสมัครโดยทั่วไป ถ้ามาจากสายทางด้านวิทยาศาสตร์ จะต้องการเกรดเฉลี่ย 2.75 ขึ้นไป แต่ถ้ามาจากสายสังคมศาสตร์ก็จะต้องการเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป และถ้าจำไม่ผิดก็จะมีทุนอีกทุนหนึ่ง ที่เป็นโครงการร่วมระหว่างรัฐบาลไทยและ Imperial's college ของประเทศอังกฤษ ถ้าจำไม่ผิดอันนี้ต้องใช้เกรดเฉลี่ย 3.50 ขึ้นไปนะ ใครเกรดถึงก็น่าลองสมัครดูนะ
มาพูดเรื่องการสอบมั่ง
ข้อสอบจะแบ่งเป็น 2 วิชา คือ
1. ภาษาอังกฤษ (Vocabulary, Error detection, Cloze test, Reading) (อันนี้สอบเช้า)
2. ความสามารถเชิงวิชาการ (อันนี้แน่นอน สอบบ่าย เหอๆๆๆๆ)
พูดถึงวิชาแรกก่อนนะ
ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษนี่ แทบจะบอกว่า เอาแนว TOEFL ในส่วนของ Grammar มาออกเลยได้มั้ง (ตามความรู้สึกผมนะ) เพราะลักษณะข้อสอบที่ออกมานี่ แทบจะเหมือนกันเลย (เทียบจาก TOEFL PBT นะครับ ไม่ใช่ TOEFL IBT) ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ ใช้เวลาสอบ 2 ชั่วโมง ข้อแนะนำที่พอจะบอกได้ก็คือ ทุกข้อที่ทำควรใช้เวลาไม่เกินข้อละ 1 นาที ไม่งั้นจะเสียเวลาข้ออื่นไปมาก เพราะเวลาสอบมีน้อยมากๆ (น้อยเวอร์เลยล่ะ) และโดยเฉพาะในส่วนของ Reading ที่บางบทความยาวประมาณ 2 หน้า (พิมพ์ไม่ผิดครับ 2 หน้าเป๊ะๆ ไม่ขาดไม่เกิน) ยิ่งต้องอ่านจับใจความให้เร็วที่สุด
มาว่ากันเรื่องของอีกวิชานึงมั่ง
วิชาความสามารถเชิงวิชาการ ก็คือข้อสอบ SAT ดีๆ นี่เอง ถ้าไม่รู้จัก มันก็คือข้อสอบเชาว์เนี่ยแหละ (นึกถึงข้อสอบ GRE ที่เป็นภาษาไทยดู นั่นแหละ ประมาณนั้นเลย) เนื้อหาถ้าจำไม่ผิดก็จะมี คณิตศาสตร์, การวิเคราะห์เชิงเหตุผล, การสรุปเนื้อหาจากบทความที่กำหนดให้, การอภิปรายและวิจารย์บทความ, การเลือกจับคู่คำศัพท์ เป็นต้น (เยอะดีมั้ย?) ข้อสอบส่วนนี้ จะยากในเรื่องของการวิเคราะห์เหตุผลจากบทความ เพราะบางครั้ง เราวิเคราะห์บทความได้เหตุผลออกมาแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว เขาเฉลยว่ายังไง อ้อ แล้วก็แน่นอนว่า ข้อสอบมี 100 ข้อ เวลาสอบก็ 2 ชั่วโมงเหมือนกับวิชาแรกเลย
ในการสอบทุน กพ. นี้ สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงอย่างหนึ่ง คือ คู่แข่งที่เลือกในแต่ละหน่วยงานจะมีจำนวนเยอะมาก บางหน่วยงานอาจจะมีผู้สมัครถึง 60 คนได้ (ปีนี้รู้สึกว่าสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศจะเยอะสุดนะ ในกลุ่มที่ผมเลือกสมัคร ก็มีประมาณ 59 คนได้) และสิ่งสำคัญที่สุดในการสอบเลยก็คือ ห้ามมีการทุจริตระหว่างสอบเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้ว นอกจากจะโดนยุติการสอบแล้ว ยังจะโดนประเมินไม่ผ่านในการเข้ารับราชการด้วย (ไม่คุ้มเลยเนอะ ว่ามั้ย?) ก็เลยอยากจะฝากกฎเหล็ก 3 ข้อของการสอบทุน กพ. คือ
1. อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรประจำตัวข้าราชการในการสอบเท่านั้น
2. อนุญาตให้นำอุปกรณ์เข้าได้เฉพาะดินสอที่มีความดำตั้งแต่ 2B ขึ้นไป (เพราะเป็นข้อสอบที่ต้องฝนดินสอ เหมือนกับสอบเอ็นทรานซ์), ปากกา, ยางลบ ไม่อนุญาตให้นำเครื่องคิดเลขหรือโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบเด็ดขาด ไม่งั้นเขาจะถือว่าจงใจทุจริตการสอบ
3. ผู้ที่ไม่เกี่ยวกับการสอบ ห้ามเข้าห้องสอบ หรืออยู่บริเวณหน้าห้องสอบโดยเด็ดขาด
ก็หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะเตรียมสอบไม่น้อยนะครับ
ปล. 1. ใครไม่รู้จักข้อสอบ SAT เชิญเข้าไปดูได้ที่ http://www.vcharkarn.com/varticle/62 เลยครับ
2. เด็กจุฬาฯ เดินกันทั่วเลยครับตอนไปสอบ ถ้าเป็นกลุ่มนักศึกษานะ แต่จากมหาวิทยาลัยอื่นก็มีนะครับ
3. ที่น่ากลัวจริงๆ ก็คือ พวกที่ใส่ชุดธรรมดาเนี่ยแหละครับ แต่ละคนนี่ประสบการณ์แน่นปึ้ก
4. มีข้อสอบอยู่ข้อนึง เอาเนื้อเพลงดาวมหาลัยของสาวมาด เม็กกะแดนซ์มาออก เห็นแล้วแทบจะปล่อยก๊ากคาห้องสอบครับ
